"Boundary" อนาเขตแห่งความขัดแย้งในจิตใจมนุษย์..สู่พรมแดนอารยธรรมของโลก @ ประสาทเขาพระวิหาร ผ่านมุมมองของ"คนหนุ่ม"ที่ตั้งคำถามต่อความขัดแย้งที่มนุษย์สองเชื้อชาติ ต่างอุปโลกเพื่อครอบครองเป็นเจ้าของ?!!
มาลัยมะลิโชยกลิ่นหอมฟุ้ง...ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งอันแสนอึดอันบนแผ่นฟิล์มระบบดิจิตอลในโรงภาพยนต์แห่งหนึ่ง
บางทีกลิ่นของมันก็ทำให้ฉันรู้สึกเวียนหัว ..เมื่อ “คนคิดมาก”
มาเสพเรื่องเล่าจาก “คนมากคิด” ทำให้ฉันต้องวิ่งวนค้นหาความหมายและคำตอบจากภาพและเสียงที่ปรากฎเบื้องหน้า…”ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง” ?!!
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiSClaBBZgwLZG64Jdqla2RCkTAgG2HAYbsVRkv7MdQizZovILQ0kcsQlaLrD1nNafDN5ZdCYVw3yDGt_iDiB071tzasDPmjaaSZXqwz4I7UxA0_P9f8b2-rRdjjhWlaMDMM7IuIdD3nCs/s320/01_.jpg)
เรื่องเล่าจากมุมกล้องของ “นนทวัฒน์ นำเบญจพล”
ผ่านตัวละครชื่อ “อ๊อด” ทหารเกณฑ์หนุ่มที่เคยร่วมในสมรภูมิความขัดแย้งของ
“สีเสื้อต่างขั้วการเมือง” จากถนนราชดำเนิน ราชประสงค์ ชายแดนใต้ ชายแดนเขาพระวิหาร จรดยอดเขาพระวิหาร
เริ่มต้นจากการเฉลิมฉลองปีใหม่
กับการระลึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ณ สถานที่แห่งเดียวกัน ที่ที่เคยเกิดการ “สังหารหมู่”
กลางเมืองเกือบ 100 ศพ ให้ตายซิ!! ฉันไม่ชอบคำนี้(สังหารหมู่)เอาเสียเลย
แต่เขาก็พยายามบอกเล่าทั้งสองมุมมอง สุดท้ายแล้วความขัดแย้งก็บานปลายไปสู่ความตายของคนไทยด้วยกัน มันก็กลายเป็นอดีตที่เจ็บปวดต่างมุมมองของ "คนไทย" ทุกคน
แล้วเขาก็พาพวกเราหนีความวุ่นวายสับสนคับข้องใจจากในเมืองหลวง
มุ่งสู่ชนบทใน จ.ศรีสะเกษ เล่าเรื่องราวของ "อ๊อด" ผ่านกระจกรถยนต์สะท้อนเรื่องราววิถีชีวิตชายแดนชนบท
จากเด็กชายบ้านนา …ปีนต้นสะเดาเขย่าให้เมล็ดสีเหลืองหล่นร่วงสู่พื้นดิน ...เติบโตบวชเรียน แล้วก็มาเป็นทหารเกณฑ์ผ่านศึกเมืองหลวง และชายแดนใต้
แถมได้ทัศนาจรไปดูศึกชายแดนเขมรด้วย
เกือบ 1 ชั่วโมง
เรื่องราวในเมืองไทยอ้อยอิ่งเนิบช้าถูกอธิบายด้วยข้อความเสียเป็นส่วนใหญ่…โชคดีที่มีเสียงปืนกล
อาวุธสงคราม จากเหตุปะทะชายแดนเขมรมาช่วยฉุดออกจากภวังค์
โดยรวมเรื่องที่เขาเล่ามันก็ดี คล้ายๆ
บันทึกประวัติศาสตร์ความขัดแย้งที่ประเดประดังข้ามาในห้วงเวลาเดียวกัน
หวนให้คิดคล้ายๆ ว่ามันจะมีเบื้องหลัง “สร้างสถานการณ์”
จากใครสักคน ที่คิดว่าตัวเองมีอำนาจ(เงิน)ล้นฟ้า?
..ทว่า
“หายะและความสูญเสีย” มันกลับตกอยู่กับหมู่ชนคนหาเช้ากินค่ำเสียนี่
ภาพความโศกสลดยิ่งตอกย้ำความน่าเศร้าของความขัดแย้งแย่งชิงที่ถูกเรียกเบาๆว่า
“การปะทะ” เมื่อความเชื่อและเหตุผลที่ถูกตีค่าในมุมมองของตัวเอง ไม่ยอมเปิดใจยอมรับความคิดต่าง
…สุดท้ายก็นำไปสู่ความขัดแย้งที่บานปลายไปสู่ความผวาหวาดกลัวเครียดแค้นของมวลเบี้ยประชาที่ไม่เท่าทันเกมอำนาจของใครบางคน
จะแปลกอะไร ..ถ้าจิตใจมนุษย์ยังคิดจะ "ครอบครอง""เส้นแบ่ง" ดินแดนแห่งความขัดแย้งย่อมดำรงอยู่..หากเราลอง "ปล่อยว่าง" "เข้าใจ" ... "สันติ" ย่อมเกิดขึ้นได้ไม่ยาก..คุณว่ามั้ย?!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น